top of page

สายโรงแรม หรือ สายอาหาร สิ่งที่ต้องเลือกก่อนเป็นเชฟ

หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าการเป็นเชฟนั้น เมื่อเราตัดสินใจจะทำอาชีพนี้จริงๆ จังๆ อันดับแรกที่เราต้องเลือก คือต้องการเป็นเชฟสายไหน ระหว่างสายอาหาร หรือ สายโรงแรม เพราะถึงแม้จะขึ้นชื่อว่าเชฟเหมือนกัน แต่เมื่อมาสัมผัสจริงๆ จะรู้ความต่างระหว่างสองสายนี้อยู่มากทีเดียว จึงจำเป็นต้องเลือกตั้งแต่เริ่มต้น เพราะหากได้เริ่มเลือกไปแล้ว จะเป็นการยากและเสียเวลาในการเปลี่ยนกลับมาอีกสายหนึ่ง


เงินเดือน



สายโรงแรม - ในการเริ่มต้นทำงาน สายโรงแรมจะได้เงินเดือนน้อยกว่าสายร้านอาหาร เพราะต้องใช้ระยะเวลาใน การไต่ ลำดับตำแหน่งนานพอสมควร โดยอาจเริ่ม ตั้งแต่ Commis 3 ไปจนถึงระดับ Executive chef  เมื่อได้อยู่ในตำแหน่งสูงๆ แล้ว ตอนนั้นเงินเดือนถึงจะได้มากกว่าร้านอาหาร


สายอาหาร - ในการเริ่มต้นของเชฟสายอาหาร อาจจะได้เงินเยอะกว่าสายโรงแรม เพราะไม่ต้องรอให้อยู่ใน

ตำแหน่งสูงๆ ก่อน แต่ทั้งนี้ก็ต้องเก็บเกี่ยว ใช้เวลาพัฒนาตัวเองให้เป็นที่ยอมรับ เพราะในอนาคต อาจจะใช้ประสบการณ์ ขยับขึ้นเป็นที่ปรึกษาตามร้านอาหารดังๆ เป็นเชฟประจำร้านอาหารหรือ ภัตตาคาร หรือคิดสูตรอาหารใหม่ๆ รายได้ก็อาจจะมากกว่าสายโรงแรมในตำแหน่งสูงๆ


สวัสดิการ

สายโรงแรม

หากได้ทำงานที่โรงแรมก็จะได้สวัสดิการของโรงแรมรวมถึงสวัสดิการของตำแหน่งที่แตกแต่างกันไป มีโบนัสประจำปี ยิ่งเป็นโรงแรมกึ่งกาสิโนในต่างประเทศแล้วรายได้ก็จะเยอะกว่าโรงแรมทั่วไป มี Uniform โรงแรม และมีบริการซักรีดให้ในบางแห่ง ถ้าทำที่ต่างประเทศจะมีตั๋วกลับบ้านฟรี ปีละ 1 ครั้ง หรือตอนลาออกก็จะมี ตั๋วให้ด้วย บางที่จะมีที่พักให้หรืออาจจะช่วยในเรื่องค่าใช้จ่ายที่พัก



สายอาหาร

ไม่มีสวัสดิการ ไม่มีโบนัส แต่อาจจะได้เป็น Tip ในวันที่ร้านมียอดขายดี บางที่เราต้อง ซื้อ Uniform เอง หรือบางร้านที่มีให้เราก็ต้องดูแลซักรีดเอง ร้านอาหารบางแห่งมีที่พัก ให้ แต่อาจเป็นที่พักบนร้าน นอนรวมกับคนอื่น แต่หากตำแหน่งสูงอาจได้ห้องพักส่วนตัว





ชั่วโมงทำงาน




สายโรงแรม - 8 -12 ชั่วโมง แล้วแต่หน้างานในขณะนั้น มีแคนทีนกินข้าวเป็นสัดส่วน มีอาหารฟรี บาง โรงแรมจะให้คูปองอาหารฟรีหรือส่วนลดในบริเวณส่วนของลูกค้าได้ ไม่ต้องล้างจาน ถ้า


สายอาหาร - 10 - 12 ชั่วโมงขึ้นไปแน่นอน ต้องล้างจาน เช็ดทำความสะอาดครัวเอง ไม่มีที่กินข้าวเป็น สัดส่วน อาจจะเป็นทานกันเองในร้าน



วันหยุด

สายโรงแรม

อาทิตย์ละวัน ในกรณีที่ทำงานต่างประเทศ หากได้ทำงานในประเทศไกลๆ จะให้วันหยุด พักร้อน 1 เดือน ต่อปี แต่ถ้าเป็นประเทศใกล้ๆ ก็จะมี Holiday ขึ้นอยู่กับเทศกาล

สายอาหาร

แล้วแต่ประเทศที่ทำ บางที่ ที่กฎหมายเข้มๆ ก็อาจได้หยุดอย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 วัน แต่ บางที่ก็ได้หยุด 2 อาทิตย์ 1 วัน ไม่มีวันหยุดยาว เหมาะกับผู้ที่สามารถทำงานห่างบ้านได้



การสมัครงาน



สายโรงแรม - หากต้องการไปทำงานในต่างประเทศก็ต้องเริ่มสมัครงาน หากโรงแรมสนใจให้เราไป ทดสอบส่วนใหญ่จะออกค่าตั๋วเครื่องบิน ให้เราไป Food Testing และดูบรรยากาศว่า

เราสามารถทำงานที่นั่นได้ไหม ถ้ามีการตกลงการทำงานก็จะออกค่า Visa ให้ ส่วนใหญ่ ไม่ต้องสอบใบวิชาชีพ


สายอาหาร - ออกค่าใช้จ่ายในเรื่องการเดินทางเอง ต้องพูดคุยตกลงกับเจ้าของร้าน เขาอาจจะออก ค่า Visa ให้เรา ให้เราออกค่าเดินทาง หรืออาจะแบ่งค่าใช้จ่ายกันคนละครึ่ง ต้องสอบใบ ประกอบวิชาชีพเพื่อส่งให้ร้านอาหารที่เราจะไปสมัครทำ Visa แต่ในบางที่ก็ไม่ต้องใช้



การทำงาน



สายโรงแรม

หากเดินสายต่างประเทศจะได้เงินเยอะกว่า ส่วนใหญ่หากเดินสายโรงแรมจะได้เป็นแถบ เอเชียหรือประเทศเพื่อนบ้าน บางทีโรงแรมอาจจะส่งเราเข้าคอร์ส ก็จะได้ประสบการณ์เพิ่มมากขึ้น


สายอาหาร

ถ้าเทียบกันงานร้านอาหารจะหนักกว่า สวัสดิการน้อยกว่า แต่สิ่งที่ได้คือประสบการณ์ ได้โอกาสในการทำงานร่วมกับเชฟชื่อดัง เพราะร้านอาหารถ้าไปต่างประเทศส่วนใหญ่คนมักนิยมไปโซนยุโรป ซึ่งเขาจะมีมาตราฐานใน การรับคนเข้าพอสมควร ถ้าทำนานเราก็จะได้รู้จัก supplier ซึ่งจะมีประโยชน์หากเราจะเปิดร้านอาหารเป็นของตัวเองในอนาคต





 

THCL Academy เปิดสอนหลักสูตร

- พ่อครัวอาหารไทย

- ตะวันตก

- พนักงานบริการอาหารและเครื่องดื่ม

- ช่างภาพอาชีพ

- ช่างภาพบนเรือสำราญ

โทรสอบถาม 061 247 6464

Line @THCLacademy

หรือ Inbox มาที่เพจ THCL Academy




Comments


bottom of page